341 Views |
ในค่ำคืนวันที่ 20 ส.ค. ของบ้านเราที่ผ่านมา แต่คงเป็นตอนเช้าของฝั่งยุโรปเขา ทาง Bluesound ได้ประกาศเปิดตัวแนะนำ Bluesound ในตระกูล Node ในเจนเนอชั่นถัดไป ใครเป็นชาวโซเชี่ยลก็คงเห็นผ่านหูผ่านตามากันแล้วบ้าง และทางเว็บไซต์หลักเขาก็ลงรายละเอียดได้ครบถ้วนแล้ว แต่ขออุนญาตบอกกล่าวตรงนี้ก่อนครับ ว่าสินค้าในเมืองไทยพร้อมจำหน่าย คุณบุ๋มผู้บริหารโคไน้ซ์ได้แจ้งว่า พร้อมวางขายคงเป็นต้นปีหน้าโน้นเลยครับ เพราะต้องผ่านกระบวนการ ขอใบอนุญาต นำเครื่องส่งทดสอบ สมอ. คือโคไน้ซ์เราทำทุกขั้นกระบวนการถูกต้องตามกระบวนการ ไม่มีการลักไก่ นำมาขายก่อนแต่ประการใด ทำไมผมถึงเรียกว่าเป็นเจอนเนอเนชั่นถัดไปล่ะ อันดับแรกที่เห็นคงเป็นเรื่องรูปร่างครับ แม้ตัวกลางยังเป็นรูปร่างเดิมที่ใช้มาตั้งแต่ เจนที่2 แล้ว แต่ก็ปรับเปลี่ยนไปหลายอย่าง อีกทั้งตัวใหญ่สุด ที่ผมคิดว่า จัดเต็มและเสียงดีแน่นอนตั้งแต่ยังไม่ได้ฟัง มีหน้าจอดิสเพลย์ขนาด 5 นิ้ว และ ช่องเอ้าท์พุทแบบบาลันซ์ XLR อันเป็นปรารถนาของเหล่าออดิโอไฟล์ทั้งหลาย ที่นี้เรามาดูกันในรายละเอียดอะไรที่เปลี่ยนไปกันบ้าง เท่าที่ผมอ่านจากสเปคของเขาในหน้าเว็บไซต์
โดยจะมีทั้งหมด 3 รุ่น ดังต่อไปนี้
NODE NANO Streamer
- ESS ES9039Q2M SABRE® DAC
- Stereo RCA output
- Optical, coaxial, and USB outputs
- 2 programmable quick-touch presets
- Quad-core 1.8GHz ARM® Cortex™ A53 processor
- DSD playback*
- AirPlay 2 integration
- Spotify Connect, TIDAL Connect, Roon Ready
- Two-way aptX™ Adaptive Bluetooth*
NODE Preformance Streamer
- ESS ES9039Q2M SABRE® DAC
- Quad-core 1.8GHz ARM® Cortex™ A53 processor
- THX AAA™ headphone amplifier technology
- Full-sized 1/4″ (6.3mm) headphone output
- HDMI eARC, Optical inputs
- Dirac Live Ready*
- Five programmable quick-touch presets
- User interface with proximity sensor
- AirPlay 2 integration
- Spotify Connect + TIDAL Connect
*Available via future software update
NODE ICON Reference Streamer
- Dual-mono DAC design with 2 x ESS Sabre ES9039Q2M DAC
- THX AAA™ headphone amplifier technology with 2 x 1/4″ jacks for cable management
- High-quality balanced XLR outputs
- HDMI eARC, optical, analog and USB-C inputs
- RCA, coax, optical, USB outputs
- Apple AirPlay 2 and aptX Adaptive Bluetooth*
- Dirac Live Ready*
- Beautiful 5” full-colour HD display and backlit touch panel with presets and controls
*Available via future software update
อะไรที่เปลี่ยนไป
1. ชิป DAC เจนนี้ จะถูกใช้บริการของ ค่าย ESS ทั้งหมดแล้วครับ เป็นเบอร์ ES9039Q2M ถูกนำมาใช้ตั้งแต่รุ่นเล็กสุดไปจนถึงรุ่นท็อปสุดเลย อันนี้ทำผมค่อนข้างประหลาดใจมาก และถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี สำหรับนักเล่นออดิโอไฟล์ทั่วๆไป ที่งบประมาณไม่สูงก็ได้ของดีเยี่ยมไปใช้งานเลย ในสตรีมเมอร์เริ่มต้นเพียง หนึ่งหมื่นบาท หรือไม่เกินหมื่น ก็ว่าได้
2. รูปร่างหน้าตา อันนี้ขอพูดถึงตัว NANO และ ICON ที่เห็นภาพชัดเจน อย่างตัวนาโนคิดว่าตัวเล็กขนาดฝ่ามือเดียวเห็นจะได้ ส่วนตัวไอคอนนั้น ใหญ่พอสมควร เพราะทาง Bluesound เองวางให้เป็นเรฟเฟอร์เรนท์สตรีมเมอร์แล้ว ที่มาพร้อมหน้าจอดิสเพลย์ที่หลายคนแอบบ่นทำไมไม่มีหน้าจอให้เห็นปก เห็นชื่อเพลงบ้าง ส่วนตัวแล้วผมไม่ได้ซีเรียสกับเรื่องนี้เลย เพราะสุดท้ายเวลาที่เรานั่งฟังเพลงเราไม่ได้อยู่ที่หน้าเครื่อง เราไปนั่งฟังนั่งเลือกเพลงจากสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็บ เต็มตาเต็มอารมณ์กว่าเป็นไหนๆ ส่วนตัว NODE รุ่นกลางนั้น นอกจากชิป DAC ที่เปลี่ยนไปแล้ว ยังใส่ภาคขยายหูฟัง ชั้นเยี่ยมที่ผ่านการรับรองจาก THX AAA™ มาเช่นเดียวกับตัวไอคอนเหมือนกัน
3. อันนี้ขอโฟกัสไปที่ตัว ICON ที่ถือว่าเป็นตัวน่าจับตามองเลยที่เดียว ซึ่งค่าตัวก็คงไม่ธรรมดา มาพร้อมหน้าจอดิสเพลย์แบบพรีเมี่ยมเกรดขนาด 5 นิ้ว ภาค DAC ยังใส่ชิปมาแบบคู่เรียกว่าทำงานอิสระซ้านขวาไปเลย นัยว่าเพื่อการรองรับเอ้าท์พุทแบบบาลันซ์ XLR นั่นเอง ซึงปกติในชิป 1ตัวนั้นจะมีตัวภาค DAC ทำงานอิสระ 2ชุดอยู่แล้ว และในภาค A to D ก็ยัง ใส่ชิปเซ็ตของ ทาง ESS SABRE ES9826Q มาเพิ่มอีกเรียกว่าตัวนี้จัดเต็มสมกับเป็นโมเดลเรฟเฟอร์เร็นท์จริงๆครับ
4. ฟีเจอร์ Dirac Live อันนี้ จะรองรับแค่รุ่น NODE และ NODE ICON เท่านั้นจะสังเกตว่าทางเมืองนอก เขาจะเอา NODE ICON ต่อเข้ากับ Power Amp ไปเลย ไม่ต้องต่อ ปรีแอมป์อะไรอีกแล้ว เป็นการส่งสัญญาณที่สั้นที่สุดอีกด้วย
5. สุดท้าย เป็นฟีเจอร์ที่คนถามหากันมากที่สุด กับรองรับการเล่นไฟล์ DSD แล้ว อันนี้เขายังอุบไต๋ไว้อยู่บอกจะทำการอัปเดทผ่าน FW ฺของ BluOS อีกที
ยังไงถ้าเครื่องทดสอบมาแล้ว ผมจะแอบมาเล่าถึงฟีเจอร์ต่างๆ กับน้ำเสียงที่เปลี่ยนไปจะมากน้อยแค่ไหน ต้องติดตามกันครับ.
Mr.HiresMan